top of page

Case Study

 บทความเเละผลงานของนักประพันธ์ ผมได้นำเเนวคิดการทำงาน เเละรูปเเบบการเสนอผลงาน ของนักเขียนหลาย ๆ ท่าน เเละนักประพันธ์มาปรับใช้กับงานของผมเอง 

  •  บทส่งท้ายของหนังสือ Men are from Mars, Women are from Venus ว่าด้วย ฤดูกาลแห่งความรัก (Seasons of Love) หรือจะพูดให้ถูกตามเนื้อหาที่ว่าไว้คือ ‘ความรักนั้นเป็นดั่งฤดูกาล’ ในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นอากาศแจ่มใส ฟ้าเปิด ราวกับช่วงตกหลุมรักใหม่ ๆ ที่อะไร ๆ ก็ดูเป็นใจ ครั้นย่างเข้าฤดูร้อน แสงแดดเริ่มจ้า แผดเผา อบอ้าว ราวกับความรักที่เริ่มปล่อยตัวตนกันออกมา ต้องใช้ความอดทนในการข้ามผ่านความร้อนแรงของฤดูกาลนี้ไป หากในยามที่ฤดูใบไม้ร่วงมาถึง อากาศเริ่มกลับมาอบอุ่นใหม่ บรรยากาศของการเฉลิมฉลอง อิ่มเอม เติมเต็มกับผลผลิตที่เก็บเกี่ยวจากความอดทน ทำงานหนักในช่วงฤดูร้อนและในช่วงฤดูหนาว เมื่อสีสันทุกอย่างผ่านไป ชีวิตทั้งหลายก็พากันพักผ่อนจากทุกฤดูกาลที่ผ่านมา ช่วงเวลาจำศีล หลบหลีกจากความวุ่นวาย เพื่อกลับมาสู่ความสงบใจภายในตัวเอง

  • Season of Life: ฤดูกาลของชีวิต
    ฤดูแต่ละฤดูล้วนมีช่วงเวลาของมัน มีจุดเริ่มต้นและมีจุดจบ เหมือนกับชีวิตของมนุษย์ที่มีช่วงเวลาเป็นของตนเอง บางทีคนเราอาจรู้สึกว่ายังไม่พร้อมที่จะเติบโต แต่เวลายังคงเดินต่อไป และชีวิตไม่เคยหยุดรอเรา หากแบ่งชีวิตออกเป็นช่วงฤดูกาลต่าง ๆ ในแต่ละฤดูกาลย่อมมีความแตกต่างกันออกไป คนเราจึงต้องจดจ่ออยู่กับช่วงเวลานั้น ๆ และทำมันออกมาให้ดีเท่าที่จะทำได้ บ่อยครั้งที่หลาย ๆ คนลืมที่จะให้ความสำคัญกับแต่ละฤดูของชีวิต และคิดว่าสามารถทำมันทีหลังได้ แต่ความเป็นจริงคือ หลังจากที่แต่ละฤดูจบลง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะย้อนกลับมาทำมัน ฤดูแบ่งออกเป็น 4 ฤดู
    คือ ฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และ ฤดูใบไม้ร่วง แต่ละฤดูจะมีลำดับของมัน และมีความแตกต่างกัน เราไม่สามารถข้ามจากฤดูหนาวไปฤดูใบไม้ร่วงเลยได้ และไม่สามารถเก็บเกี่ยวก่อนที่จะหว่านเมล็ดเช่นกัน สิ่งที่เราสามารถทำได้ คือการทำสิ่งที่ควรทำในแต่ละช่วงเวลา และเฝ้ารอดูผลลัพธ์ที่ตามมา
  • ฤดูหนาว : ฤดูหนาวคือช่วงเวลาของการเริ่มต้น เป็นช่วงแห่งการค้นหาความฝัน การวางแผน และการตั้งเป้าหมาย
    ทำให้ในฤดูนี้ เป็นฤดูที่ควรให้เวลากับการวางแผนเส้นทาง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้ ตั้งเป้าหมายให้ใหญ่
    และวางแผนมันออกมา
  • ฤดูใบไม้ผลิ : ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่นำแผนที่วางไว้ตอนฤดูหนาว มาทำให้เกิดขึ้นจริง ช่วงเวลาที่คุณจะสนุก
    กับการได้ลงมือทำ ทุ่มเทแรงกายแรงใจลงไปในสิ่งที่กำลังทำ แต่ควรเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง ยิ่งลงมือทำมันเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่ผลลัพธ์จะออกมางอกงามก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น
  • ฤดูร้อน : ฤดูร้อนเป็นช่วงที่เหมาะแก่การเพาะปลูก เป็นช่วงเวลาที่ควรรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ให้กับเมล็ดพันธุ์ ช่วงนี้คือช่วงเวลาแห่งการเจริญเติบโต ในตอนแรก ผู้คนเริ่มมีฝันที่ยิ่งใหญ่ในฤดูหนาว เริ่มเสาะหาเมล็ดพันธ์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และหลายคนก็หยุดพักหลังจากได้เมล็ดพันธุ์มา ซึ่งการเสาะหาเมล็ดพันธ์เปรียบเสมือนจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่การเติบโต ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่จะเหนื่อยและลำบากที่สุด
    แต่ต้องก้าวต่อไป ถึงแม้จะยังไม่เห็นว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะเป็นยังไง 
  • ฤดูใบไม้ร่วง : ฤดูใบไม้ร่วง เวลาที่ผล และใบร่วงจากต้นไม้ ในฤดูนี้จะมีคนอยู่ 2ประเภท กลุ่มแรกคือคนที่เสียใจ คนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่ปล่อยให้เวลาผ่านไปในช่วงเวลาที่ต้องปลูกพืชผล เมื่อมารู้ตัวทีหลังก็พบว่าไม่มีผลอะไรให้เก็บเลย อีกกลุ่มคือ คนที่สำเร็จ
    คนกลุ่มนี้ได้ทำงานอย่างหนักในแต่ละฤดูที่ผ่านมา ช่วงเวลานี้ผลต่าง ๆ งอกเงย และพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว เป็นฤดูที่คนกลุ่มนี้ได้มีความสุข
    กับสิ่งที่ตัวเองหวังเอาไว้
  • Vivaldi: The Four Seasons ความมหัศจรรย์ของ The Four Seasons (1725) สี่บทเพลง Violin Concerto ของคีตกวีเอก
    สัญชาติอิตาเลี่ยน Antonio Vivaldi (1678 – 1741) แห่งยุคสมัย Baroque คือผู้ฟังสามารถหลับตา จินตนาการถึงฤดูกาล สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสายลม แสงแดด ใบไม้ร่วง และหิมะหนาวเหน็บ
     

  • Antonio Lucio Vivaldi (1968 – 1741) คีตกวี ครูสอนดนตรี นักไวโอลิน บาทหลวงสัญชาติ Italian เกิดที่ Venice, Venetian Republic บิดาคือ Giovanni Baptista Vivaldi เป็นช่างทำขนมปัง และหัวหน้าคณะนักดนตรีประจำมหาวิหาร San Giovanni in Bragora,
    ในวันที่ Vivaldi ถือกำเนิด เมือง Venice ประสบเหตุการณ์แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ทารกน้อยเกือบเอาชีวิตไม่รอด มีอาการไข้สูงตลอดเวลา มารดามองว่าเป็นลางร้ายอะไรสักอย่าง จึงตั้งมั่นหมายให้บุตรชายบวชเป็นพระ/บาทหลวง เพราะครุ่นคิดว่าอาจช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาลงได้

  • บทเพลงชุด The Four Seasons นั้น ตัวของผู้ประพันธ์ได้มีการใช้โคลงกลอนเข้ามาเป็นตัวช่วยในการประพันธ์บทเพลง ซึ่งอธิบายสิ่งที่อยู่ในจิตวิญญาณของแต่ละฤดูกาลที่ดนตรีของเขาตั้งใจจะทำให้นึกถึง ดังนั้น คอนเสิร์ตนีจึงเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุด และมีรายละเอียดมากที่สุดของสิ่งที่จะเรียกว่า Program Music หรืออีกนัยหนึ่งคือดนตรีที่มีองค์ประกอบของการบรรยายภาพ วิวัลดีต้องใช้พยายามอย่างมากในการเชื่อมโยงเพลงของเขาเข้ากับบทกวี โดยเขียนบทกวีลงในหน้าบทเพลงเลย ตัวอย่างเช่นในส่วนตรงกลางของท่อน "ฤดูใบไม้ผลิ" จะมีข้อความว่า เมื่อเด็กเลี้ยงเเกะนอนหลับ เขาจะได้ยินเสียงสุนัขที่คอยไล่เเกะเห่า ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นเสียงของวิโอลาที่บรรเลง
    เป็นเสียงของสุนัขกำลังเห่า ส่วนเครื่องดนตรีอื่นบรรเลงให้เกิดเสียงธรรมชาติอื่น ๆ ไปด้วยกัน วิวัลดีแบ่งคอนแชร์โตบทนี้แต่ละท่อนออกเป็นสามกระบวน (เร็ว - ช้า - เร็ว) และมีบทกวีที่เชื่อมโยงออกเป็นสามส่วนเช่นเดียวกัน

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ Spring (La Primavera)
    - Allegro เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง เสียงนก เสียงแมลง แสดงถึงความตื่นเต้น ดีใจ ร่าเริง สลับด้วยเสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ให้เห็นถึงการตื่นตัวของธรรมชาติโดยมีเสียงน้ำไหลเอื่อย ๆ ในลำธาร ประกอบชั่วขณะหนึ่ง ก็มีพายุมาทำลายความเงียบสงบนี้ หลังจากนั้นไม่นานพายุก็ผ่านพ้นไปและนกก็เริ่มร้องเพลงอีกครั้ง
    - Largo เสียงเพลงบรรยายให้นึกถึงภาพดอกไม้บาน คนเลี้ยงแกะกำลังนอนหลับในบ้าน และได้ยินเสียงเห่าของสุนัขผู้ซื่อสัตย์ของเขา
    ที่เฝ้าบ้าน และคอยระวังฝูงแกะ

    - Allegro (Danza pastorale) เสียงของปี่สก๊อต การร้องรำทำเพลงของคนเลี้ยงแกะชาย และหญิง เพื่อต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่กำลังจะมาถึง
    ในไม่ช้านี้

     

  • ฤดูร้อน Summer (L’ estate)
    - Allegro non molto เสียงเพลงเริ่มต้นด้วยความอิดโรย และอ่อนล้าของฤดูกาลที่ร้อนภายใต้แสงอาทิตย์ ต่อมาจึงถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงนกคุกคู (นกกาเหว่า) ตามมาด้วยเสียงนกเขา และเสียงลมตะวันตก ลมเหนือที่พัดโชย ซึ่งถูกขัดขึ้นมาด้วยเสียงที่รุนแรง กระแสลมได้อ่อนตัวลงและเราได้ยินเสียงคร่ำครวญของคนเลี้ยงแกะ
    - Adagio-Presto-Adagio ในช่วงจังหวะช้านี้นำมาซึ่งความสงบ แต่ก็มีเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าอันน่ากลัว และคลอเคล้ากับเสียงอื้ออึงของเหล่าแมลงต่าง ๆ มากมายทั้งมด และตัวหนอน
    - Presto (Tempo impettuoso d’ estate) กล่าวถึงความกลัวเริ่มจางหายไป ข้าวโพดพืชผักต่าง ๆ งอกงาม 
     

  • ฤดูใบไม้ร่วง Autumn (L’autunno)
    - Allegro (Ballo, e canto de’ villanelli)
    เสียงเพลงบรรยายด้วยเพลงเต้นรำชนบท เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลที่สุกใหม่
    มีการกินเลี้ยงกันอย่างมากมาย การเต้นรำร้องเพลงของคนที่กำลังเมามีความสุขกันจบจนหลับไป

    - Adagio molto (Ubriachi dormienti) ทุกคนสนุกสนาน ร้องเพลงเต้นรำจนหมดแรง และผลอยหลับไปด้วยความสุข
    - Allegro (La caccia) การออกล่าสัตว์ยามรุ่งอรุณ เสียงแตรจากคนล่าสัตว์ เสียงเห่าของสุนัขของคนล่าสัตว์ และเสียงปืน
    เสียงของแนวไวโอลินในช่วงเดี่ยวนี้ใช้เป็นตัวแทนของสัตว์ที่ถูกล่า ซึ่งวิ่งหนีด้วยความกลัว และตายลงด้วยความเหนื่อยอ่อน
    จากความตื่นตระหนก

     

  • ฤดูหนาว Winter (L’ inverno)
    - Allegro non molto เปิดแนวทำนองด้วยความหนาวเย็นยะเยือกของสายลมแห่งฤดูหนาวมาเยือน หิมะจับตัวเป็นน้ำแข็ง
    ลมหนาวพัดผ่านหนาวจากเท้าสู่ศีรษะ

    - Largo บรรยายบรรยากาศอันอบอุ่นรอบเตาผิงที่อยู่กันอย่างสงบสุข มองไปยังภายนอกก็ยังคงมีสายฝนตกอยู่อย่างไม่ขาดสาย
    - Allegro ลีลาของเพลงในช่วงนี้แสดงถึงความร่าเริง เบิกบาน และความกลัวอันตราย จากการเดินฝ่าไปบนน้ำแข็งด้วยความระมัดระวัง
    กลัวลื่นหกล้มก็ยังพลาดล้มลง แต่ก็ได้พยายามลุกขึ้นเดินใหม่ได้ และสามารถวิ่งได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งน้ำแข็งแตก เราได้ยินเสียงลมมาจากทุกทิศทุกทาง โหมกระหน่ำ ความสว่างจากหิมะสะท้อนท้องฟ้านำมาซึ่งความสุขในฤดูหนาวนี้

https://en.wikipedia.org/wiki/The_Four_Seasons_(Vivaldi)
http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=566611
bottom of page