
บทเพลง : Morgen
ประพันธ์ โดย : Richard Strauss เนื้อร้อง : John Henry Mackay
-
บทเพลงนี้เป็นเพลงประเภท : Lieder บทเพลงนี้มีความไพเราะในท่วงทำนอง และในแนวเสียงประสานเพราะเป็นเพลงที่ Strauss แต่งให้กับคนรักของเขา
-
เนื้อหาของบทเพลงนี้เกี่ยวกับ การเล่าเรื่องของคู่รักคู่หนึ่งที่อีกคนกำลังจะจากไป ทั้ง 2 คนจึงมานั่งดูพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน แสงของดวงอาทิตมันช่างอบอุ่นเหมือนมันกอดเราไว้ด้วยกันตลอดเวลา แต่มันก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปเพราะดวงอาทิตย์พอตกเย็นมันก็จะค่อย ๆ ลับลา เมื่อถึงตอนเช้าก็จะค่อย ๆ เผยโฉมขึ้นมาใหม่ เหมือนกับชีวิตของคนเรา
-
บทเพลง ประเภท Lieder นั้นคือเพลงประเภทเพลงร้องที่มีแนวทำนองติดหูในสมัยนั้น มีเนื้อมาจากบทกวีหรือนิทานพื้นบ้าน และเป็นบทเพลงในภาษาเยอรมัน
-
Und morgen wird die Sonne wieder scheinen
Und auf dem Wege, den ich gehen werde,
Wird uns, die Glücklichen, sie wieder einen
Inmitten dieser sonnenatmenden Erde …
Und zu dem Strand, dem weiten, wogenblauen,
Werden wir still und langsam niedersteigen,
Stumm werden wir uns in die Augen schauen,
Und auf uns sinkt des Glückes stummes Schweigen

-
And tomorrow the sun will shine again
And on the path that I shall take,
It will unite us, happy ones, again,
Amid this same sun-breathing earth …
And to the shore, broad, blue-waved,
We shall quietly and slowly descend,
Speechless we shall gaze into each other’s eyes,
And the speechless silence of bliss shall fall on us …
-
และพรุ่งนี้พระอาทิตย์จะส่องแสงอีกครั้ง
และบนเส้นทางที่ฉันจะไป
มันจะรวมกันเราคนที่มีความสุขอีกครั้ง
ท่ามกลางโลกที่มีเเสงส่องลงมา
และชายฝั่งที่โปร่งเเละมีคลื่นสีฟ้า
ที่เงียบและสงบ
เราจะจ้องเข้าไปที่ดวงตาของกันและกัน
และความสุขที่ไม่ต้องเเสดงออกทางคำพูด
-
เกิด : June 11, 1864 in Munich, Germany
ตาย : September 8, 1949 in Garmisch, Germany
สัญชาติ เยอรมัน
ยุคสมัยดนตรีและระยะเวลา (Style / Period)
ยุคโรแมนติก ค.ศ.1820 - 1910
Romantic Period 1820 - 1910
ตัวอย่างผลงานที่มีชื่อเสียง (Famous Works)
Don Juan, Till Eulenspiegels lustige Streiche, Also Sprach Zarathustra; Ein Heldenleben, Salome
-
อัตชีวประวัติ (Biography)
ริชาร์ด สเตราส์ (Richard Strauss) เป็นนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน ในยุคโรแมนติก พ่อเป็นนักดนตรี มีชื่อว่า Franz เป็นผู้ที่มีความชำนาญในการเป่าฮอร์น สเตราส์เรียนรู้เรื่องดนตรีจากการสอนของพ่อเขาเอง เขาสามารถแต่งเพลงได้เมื่ออายุเพียง 6 ขวบ บทเพลงซิมโฟนีบทแรกของเขาได้ถูกนำมาแสดงเมื่ออายุ 17 ปี เมื่ออายุ 21 ปี เขาได้รับทำหน้าที่ผู้กำกับวงดนตรี (conductor) ให้กับวง Meiningen Orchestra และในภายหลังเขาได้กลายมาเป็นผู้ควบคุมวงรุ่นเยาว์ที่ Munich Opera
สเตราส์ สนใจที่จะสร้างผลงานเพลงแบบแปลกใหม่มาสู่ผู้ฟัง ลักษณะของบทเพลงที่เรียกว่า "Tone Poem" หรือ "Symphonic Poem" ซึ่งเป็นการนำเสียงดนตรีมาใช้พรรณาเรื่องราวต่างๆได้ถูกนำมาใช้ในบทเพลงของเขา ผลงานที่จัดว่าเป็น Tone Poem ได้แก่บทเพลงในเรื่อง Don Juan และ Till Eulenspiegels lustige Streiche (Till Eulenspiegels Merry Pranks) เขาประสบผลสำเร็จกับแนวดนตรีแบบ Tone Poem และได้กลายเป็นผู้นำการเขียนเพลงแนวนี้ในเยอรมันนี สเตราส์เป็นผู้ที่มีอารมณ์ขบขัน เขามักจะแทรกอารมณ์ขันของเขาด้วยเสียงดนตรีในบทเพลงของเขาเสมอ
Ein Heldenleben คือ Tone Poem หรือ Symphonic Poem ผลงานลำดับที่ 40 ที่สเตราส์เขียนขึ้น.oxu 8.L. 1898เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของเขาเองที่ต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อความสำเร็จ โดยมีภรรยาเป็นผู้สนับสนุน ชื่อเพลงในภาษาอังกฤษคือ Hero's Life
เพลง Till Eulenspiegels lustige Streiche สเตราส์ได้เค้าโครงมาจากนิยายพื้นบ้านของชาวเยอรมันที่เล่าสืบต่อกันมา Till Eulenspiegels คือชายที่ชอบสิ่งที่ตลกขบขัน เป็นชายชาวชนบทที่มีอายุอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1300 หลังจากที่เขาได้ตายลงไปแล้ว เรื่องตลกขบขันที่เขาได้ทำไว้ในอดีตได้ถูกนำมาเล่าสืบต่อกันอย่างต่อเนื่อง จนมีการนำเรื่องราวของเขามาเขียนไว้ในเพลงพื้นบ้านและบทกวีต่างๆในศตวรรษที่ 15 และได้แปลออกเป็นภาษาต่างๆ ถึง 6 ภาษา มีผู้นิยมอ่านกันมาก ฉบับที่เป็นภาษาอังกฤษมีผู้นิยมอ่านมากที่สุด
สเตราส์ มีผลงานเพลงประกอบการแสดงอุปรากรเช่นกัน มีทั้งเรื่องที่ไม่ประสบผลสำเร็จและเรื่องที่ประสบผลสำเร็จ อุปรากรเรื่องแรกคือ Guntram ได้นำออกแสดงเพียงครั้งเดียว ต่อมาคือเรื่อง Feuersnot เมื่อนำออกแสดงก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จนัก อุปรากรเรื่อง Solome คือเรื่องที่ได้รับการตอบรับอย่างดี ถือว่าอุปรากรเรื่อง Solome เป็นอุปรากรต้องห้าม เนื่องจากมีฉากการตัดหัวและฉากการเปลื้องผ้าคลุมหน้าออกทีละชั้นถึงเจ็ดชั้น โดยถูกวิจารณ์จากผู้ที่ได้ชมอย่างรุนแรง แต่สุดท้ายอุปรากรเรื่องนี้ก็สามารถทำเงินให้กับสเตราส์อย่างมากมายจนสามารถนำไปปลูกคฤหาสน์หลังใหญ่ได้
ในปี ค.ศ. 1909 สเตราส์ได้เขียนอุปรากรเรื่อง Elektra โดยได้นำวิธีการประสานเสียงแบบใหม่มาใช้ เพื่อต้องการให้ผู้ที่ได้ฟังเกิดความตกใจ อุปรากรทั้ง 2 เรื่อง คือ Solome และ Elektra ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในยุคนั้น ในปี ค.ศ.1911 เขาได้เขียนอุปรากรชวนหัว 1 เรื่อง คือ Der Rosenkavalier ซึ่งก็เป็นอุปรากรเรื่องหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากเหมือนกับเรื่อง Salome
-
จุดเด่นของเพลง : บทเพลงนี้ ถูกประพันธ์ขึ้นในบันไดเสียง G เมเจอร์ เเละ อยู่ในอัตราจังหวะ 4/4 บทเพลงนี้ผู้ประพันธ์ต้องการที่จะสื่อความหมายของเเสงอรุณที่ส่องมาในยามเช้าเปรียบเหมือนกับกับการเกิดใหม่เเละความอบอุ่น จึงได้มีการเเต่ง ตัวเเนวประสานที่ใช้ เครื่องไวโอลิน เข้ามาบรรเลงพร้อมเปียโน เพราะว่าเสียงของไวโอลินนั้น มีความหวานเเละนุ่มนวลเหมือนกับ เเสงอาทิตย์ในยามเช้า
(1) R. Strauss : Morgen ,ห้องที่ 1-5
-
จุดเด่นอีกอย่างของบทเพลงนี้คือการที่เเต่งเเนวประสานเเบบ Apegeio ก็คือบรรเลงคอร์ดที่ล่ะตัวโน้ตไม่พร้อมกัน เพื่อสร้างอารมณ์ให้เหมือนกับการเครื่องไหวของคลื่นทะเลที่ค่อยๆไหลไปอย่างช้าๆ
(2) Richard Strauss. Morgen , หน้า1 ห้องที่ 1-3
-
ในห้องที่ 14-16 มี สัญลักษณ์ Langsam ซึ่งเเปลว่าช้า มาช่วยในการกำกับ เเละในท่อนที่ เเนวทำนองหลักเริ่มเข้ามา มีการใช้ สัญลักษณ์ sher ruhig มีความหมายว่า “เงียบมาก” ตัวของผู้ต้องการที่สื่อถึงพระอาทิตย์ยามเช้า
(3) R. Strauss : Morgen ,ห้องที่ 14-16
-
ในท่อนนี้ผู้เเต่งได้มีการสื่ออารมมณ์ของเพลงที่เเต่งต่างออกไปจากท่อนเเรกเพราะว่าท่อนนี้จะเป็นท่อนที่เป็นเหมือนกับบทสรุปเรื่องราวทั้งหมดของ ชุดเพลงเเล้ว จึงมีการเเต่งตัวของเเนวทำนองหลักดูมีความ เหมือนกับการพูดลาจาก
(4) R. Strauss : Morgen , ห้องที่ 31-38
-
เเละตัวของเเนวประสานเล่น เป็นเพียงคอร์ดลากยาวที่ทำหน้าที่ส่งเสริมตัวเเนวทำนองหลักอีกด้วยเพราะ ในท่อนสุดท้ายนี้เป็นเหมือนกับการพูด จึงต้องเเต่งตัวของ เเนวประสาน ให้ไม่มีความซับซ้อนมาก
(5) R. Strauss : Morgen , ห้องที่ 31-36
-
เเละมี สัญลักษณ์ immer ruhig ซึ่งมีความหมายว่า เงียบสงบ เพื่อมาช่วยสื่อความหมายของประโยคสุดท้ายนี้ออกมา จากนั้นมีการ ใช้ สัญลักษณ์ P ใส่ลงไปใน เเนวประสาน หลังจากที่ เเนวทำนองหลัก จบลง เพื่อเบาลงเเละจบลงอย่างสมบูรณ์
(6) R. Strauss :Morgen , ห้องที่ 38-42
.png)




